ชมรมโต้วาที ‘ชมรมการพูดเพียงหนึ่งเดียวในคณะวิศวกรรมศาสตร์’ ชมรมที่จะช่วยพัฒนาทักษะความคิดและความมั่นใจในการพูด ไม่ว่าจะเป็น Public Speaking, Presentation หรือ Debate และรับรองว่า “ชมรมโต้วาที จะเป็นชมรมที่ให้คุณมากกว่าคำว่าพูดเป็น”
"เรียนท่านคณะกรรมการที่เคารพ สวัสดีผู้ชมทุกท่าน และฝ่ายเสนอที่น่ารักทุกคนครับ” เรามักจะเริ่มต้นพูดการโต้วาทีด้วยประโยคแบบนี้เสมอ เหมือนกันกับชมรมโต้วาที ที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของเราในคณะวิศวฯ แห่งนี้ มันอาจจะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จุดนี้นี่แหละที่เป็นที่มาของเรื่องราวที่น่าประทับใจที่สุดของเราเรื่องหนึ่งในชีวิตนี้เลย “โต้วาทีไม่ใช่ทุกอย่าง แต่โต้วาทีคือประตูสู่ทุกอย่าง” ชมรมนี้เหมือนเป็นประตูที่เปิดออกสู่อีกด้านหนึ่ง เราไม่ได้แค่พัฒนาทักษะในการพูด หรือทักษะในการโต้วาทีเท่านั้น แต่ชมรมนี้ยังเปิดโอกาสให้เราตั้งคำถามต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เราเคยเชื่อ มองเห็นมุมมองของเรื่อง ๆ หนึ่งที่แตกต่างออกไป บางครั้งเราก็รับฟังและพยายามเข้าใจในมุมมองนั้น บางครั้งเราก็เชื่อมั่นในสิ่งที่เราเชื่อ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราได้รู้จักการโต้เถียงมุมมองต่าง ๆ โดยใช้เหตุผลเป็นหลัก และอีกสิ่งหนึ่งที่ได้จากชมรมนี้คือ มิตรภาพดี ๆ จากทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ ที่ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้เป็นแค่ชมรม แต่เป็นครอบครัว เพราะ “ไม่มีประโยคใดบนโลกนี้ที่ค้านไม่ได้” เพราะอยากพัฒนาทักษะในการพูดของตัวเอง เพราะสนใจการโต้วาที เพราะชอบฉอดเรื่องราวต่าง ๆ หรือเพราะอยากเห็นมุมมองใหม่ ๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราอยากชวนให้มาลองทำความรู้จัก “ชมรมโต้วาทีวิศวฯ จุฬาฯ” ให้มากขึ้น เราเชื่อว่าอย่างน้อยแกจะได้เจออะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนอย่างแน่นอน :)
โดยส่วนตัวแล้ว น่าแปลกที่พอต้องนึกถึงช่วงเวลาในชมรมโต้วาที ความทรงจำต่าง ๆ ก็พรั่งพรูออกมาเป็นฉาก ๆ โดยไม่ต้องพยายามไล่เรียงมากนัก เป็นห้องสว่างท่ามกลางความสงัดของตึก 3 ยามเย็น เป็นความประหม่าในมื้ออาหารค่ำแรก ๆ กับรุ่นพี่ที่เพิ่งจะรู้จัก เป็นเสียงหัวเราะฮาจากวงสนทนายามค่ำ เป็นกลิ่นกาแฟกรุ่นท่ามกลางความสงบของยามเช้า ระหว่างที่นั่งมองรอยแสงที่ลอดผ่านร่มใบจามจุรี ตกกระทบพื้นปูนเทา ๆ ของลานเกียร์ อย่างกับอยู่ดี ๆ ก็มีม้วนฟิล์มผุดขึ้นมาในหัว คอยบันทึกภาพช่วงชีวิตฝังไว้แน่นในความทรงจำ แต่ก็ไม่แปลกใจเลยที่จะจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้มาก เพราะชมรมนี้มอบชีวิตที่มีแทบจะทุกรสชาติให้กับเด็กปีหนึ่งคนหนึ่ง ที่ในเวลานั้นยังใหม่ และหลงทาง ยังมีความทรงจำอีกเรื่องหนึ่ง ความทรงจำเกี่ยวกับบทสนทนาที่กระจ่างชัดเกินกว่าปกติความทรงจำเกี่ยวกับบทสนทนาทั่วไปจะเป็นได้ เพราะบทสนทนาเป็นองค์ประกอบหลักทีเดียวที่ประกอบกันเป็นกิจกรรมที่เรียกว่าการโต้วาทีนี้ สนทนากับตนเอง สนทนากับเพื่อนร่วมทีม ก่อนที่ในที่สุด สนทนากับคู่แข่ง พอคุยมาก ๆ เข้า ก็มองเห็นไอเดียเหมือนกล่องที่ถูกเคลื่อนย้าย แลกเปลี่ยน จัดเรียง กองไว้ตรงโน้น โยนไว้ตรงนี้ ตรรกะเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างเกาะแก่งของความคิดที่ยังไม่ปะติดปะต่อ เราพยายามช่วยกันสร้างสะพาน เสนอเส้นทาง มองหาความเป็นไปได้ บางทีสะพานก็ถูกใช้ บางครั้งถูกทุบทิ้ง (ซึ่งเป็นเรื่องแสนจะปกติ) ก็แค่เริ่มสร้างสะพานใหม่ ซึ่งพบว่าการสร้างสะพานตรรกะนี้บางครั้งก็เหนื่อยไม่ต่างจากการสร้างสะพานจริง ๆ อย่างไรก็ตามน่าจะเป็นเพราะสิ่งนี้ที่ทำให้แม้ไม่ได้ขยับตัวไปไหน บทสนทนาก็พาให้รู้สึกเหมือนได้ไปเที่ยวบนเกาะความคิดที่ไม่รู้จัก ทำให้สำหรับเรา บทสนทนาเหล่านี้แทนที่จะเป็นแค่ถ้อยคำที่ไม่นานก็ลืม กลายเป็นรูปรสกลิ่นเสียงที่จะฝังติดอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน
A life-changing experience คำสั้น ๆ ง่าย ๆ ให้กับชมรมโต้วาที ‘ชมรมที่ให้มากกว่าการพูด’ ไม่ได้เป็นคำอธิบายที่เกินจริงเลย ถ้าพูดถึงสิ่งที่ชมรมนี้ได้ให้กับเรา ทั้งทักษะ ประสบการณ์ ครอบครัว รวมไปถึงตัวเราที่เก่งขึ้นกว่าเดิมในทุก ๆ ด้านไม่ใช่แค่การดีเบต ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปเข้ามหาวิทยาลัยอีกกี่รอบ เราก็จะยังกลับมาเข้าชมรมโต้วาที :)